ไดฟุกุ! หวานละมุน สัมผัสความนุ่มหนึบของแป้งโมจิในทุกร้อนหอม

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบขนมหวานญี่ปุ่น ผมขอแนะนำ “ไดฟุกุ” (Daifuku) ซึ่งเป็นขนมพื้นเมืองแสนอร่อยจากเมืองวาโกยามะ (Wakayama) ประเทศญี่ปุ่น ไดฟุกุมีจุดเด่นอยู่ที่แป้งโมจิเหนียวหนึบที่ห่อหุ้มไส้หวาน ๆ
ไดฟุกุถูกจัดว่าเป็นขนม “โมจิ” ซึ่งเป็นขนมชนิดหนึ่งทำจากแป้งข้าวเหนียวที่ผ่านการนวดและทำให้ขึ้นรูป ขนมโมจิมีหลากหลายรูปแบบ เช่น อังโกะ (anko) เป็นไส้ที่ทำจากถั่วแดงหวาน, สτραเบอร์รี (strawberry), ชอคโกแลต (chocolate) และอื่น ๆ
รู้จักไดฟุกุให้ลึกซึ้ง
ไดฟุกุเป็นขนมที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความอร่อย
แป้งโมจิ: แป้งโมจิทำมาจากข้าวเหนียวที่ถูกนวดและทำให้เกิดความเหนียวหนึบ
เมื่อกัดเข้าไปจะรู้สึกถึงความนุ่มละลายในปาก เป็นสัมผัสพิเศษที่ยากจะลืม
ไส้ไดฟุกุ: ไส้ของไดฟุกุมีหลายรสชาติ
ไส้ที่นิยมมากที่สุดคือ “อังโกะ” (anko) ซึ่งเป็นไส้ทำจากถั่วแดงหวาน มีความหอมและหวานกำลังดี
นอกจากนี้ ยังมีไส้other อื่น ๆ เช่น สตรอเบอร์รี่, ช็อคโกแลต, ครีม custard, และมัทฉะ (matcha)
ทำไมไดฟุกุถึงเป็นขนมที่นิยมมากในญี่ปุ่น?
ไดฟุกุเป็นขนมที่มีประวัติยาวนาน และได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน มีเหตุผลหลายประการที่ทำให้ไดฟุกุเป็นขนมโปรดของชาวญี่ปุ่น:
-
รสชาติที่ลงตัว: ความหวานของไส้และความเหนียวหนึบของแป้งโมจิผสมผสานกันอย่างลงตัว
-
ราคาที่ไม่แพง: ไดฟุกุเป็นขนมที่มีราคาค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับขนมญี่ปุ่นอื่น ๆ
-
หาซื้อได้ง่าย: ไดฟุกุสามารถหาซื้อได้ทั่วไปในร้านสะดวกซื้อ, ซูเปอร์มาร์เก็ต, และร้านขายขนม
-
เหมาะสำหรับทุกวัย: ไดฟุกุเป็นขนมที่อร่อยและเหมาะสำหรับคนทุกวัย
วิธีรับประทานไดฟุกุ
ไดฟุกุสามารถรับประทานได้ทั้งแบบเย็นและอุ่น
- แบบเย็น: ไดฟุกุเย็นจะให้ความรู้สึกสดชื่นและหอมหวาน
- แบบอุ่น: ไดฟุกุอุ่นจะทำให้แป้งโมจิ นุ่มละลายมากขึ้น และไส้จะหอมหวานขึ้น
การเก็บรักษาไดฟุกุ
ไดฟุกุควรเก็บรักษาในตู้เย็นเพื่อให้คงความสดใหม่
-
แบบเย็น: ไดฟุกุที่ยังไม่ได้แกะสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานประมาณ 3-4 วัน
-
แบบอุ่น: ไดฟุกุที่อุ่นแล้ว ควรรับประทานให้หมดภายในวันเดียว
สูตรไดฟุกุ
ส่วนผสม:
ส่วนผสม | จำนวน |
---|---|
แป้งข้าวเหนียว | 200 กรัม |
น้ำตาลทราย | 50 กรัม |
แป้งมันสำปะหลัง | 1 ช้อนโต๊ะ |
ไส้ (อังโกะ, สตรอเบอร์รี่, หรืออื่น ๆ) | ตามชอบ |
วิธีทำ:
-
ล้างแป้งข้าวเหนียวให้สะอาดแล้วแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที
-
ต้มแป้งข้าวเหนียวในน้ำเดือดจนสุก
-
บวดแป้งข้าวเหนียวที่สุกแล้วให้ละเอียด
-
หยักแป้งโมจิเป็นก้อน ๆ แล้วใส่ไส้
-
ม้วนแป้งโมจิให้ห่อหุ้มไส้
-
ตัดไดฟุกุเป็นชิ้นขนาดพอดี
-
โรยแป้งมันสำปะหลังลงบนไดฟุกุเพื่อให้ไม่ติดกัน
ความหลากหลายของไดฟุกุ
ไดฟุกุมีหลากหลายรูปแบบทั้งในแง่ของไส้และรูปทรง
-
ไดฟุกุโมจิ: เป็นไดฟุกุที่มีไส้หวาน เช่น อังโกะ, สตรอเบอร์รี่, และช็อคโกแลต
-
ไดฟุกุยางกูม: เป็นไดฟุกุที่ใช้แป้งโมจิห่อหุ้มไส้เชิญชวนให้ลอง
-
ไดฟุกุดาจิ: เป็นไดฟุกุที่ถูกนำไปทอดจนเหลืองกรอบ
ไดฟุกุ: อร่อยและมีประโยชน์
นอกจากรสชาติที่อร่อยแล้ว ไดฟุกุยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพ
-
แป้งข้าวเหนียวในไดฟุกุเป็นแหล่งพลังงานที่ดี
-
ถั่วแดงหวาน (อังโกะ) มีวิตามินและแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์
-
ไดฟุกุสามารถช่วยย่อยอาหารได้ดี
สรุป
ไดฟุกุเป็นขนมที่ทั้งอร่อยและมีประโยชน์
รสชาติหวานละมุนของไส้และความเหนียวหนึบของแป้งโมจิผสมผสานกันอย่างลงตัว
ถ้าคุณไปเที่ยวเมืองวาโกยามะ, แนะนำให้ลองลิ้มรสไดฟุกุดูนะคะ!